The Pale Blue Eye เดอะ เพล บลู อาย

เรื่องย่อ....สตีฟ ซิสซู ช่างภาพใต้ทะเลชื่อดังและลูกทีมของเขา ออกผจญภัยใต้มหาสมุทรเพื่อตามหาฉลามยักษ์ที่ฆ่าเพื่อนร่วมงานของเขาไปในระหว่างการถ่ายทำสารคดีใต้ทะเลครั้งล่าสุด โดยมีผู้ร่วมเดินทางประกอบด้วย ผู้ช่วยกัปตันผู้อาจเป็นลูกชายของเขาก็ได้ (วิลสัน) นักข่าวสาว (แบลนเช็ตต์) ผู้อำนวยการสร้างและภรรยาที่แยกทางกันไป (ฮุสตัน) และเหล่าคนเพี้ยนๆ อีกมากมาย

สายลับหน่วยปฏิบัติการพิเศษผู้แข็งกร้าวต้องเผชิญบททดสอบด้านศีลธรรม เมื่อแฝงตัวเข้าไปในแก๊งอาชญากรรมและเกิดผูกพันใกล้ชิดกับลูกชายของบอสใหญ่โดยไม่คาดคิด

เรื่องความความรักที่ทั้งรักทั้งเกลียดของปีศาจสาว เสี่ยวหรง และบัณฑิต หวังหวยชิง รวมทั้ง อารั่ว ภรรยาของเขา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางระหว่างความรักที่มีเพียงเปลือกและความเป็นความตาย เมื่อกลุ่มปีศาจที่ใช้มนต์ดำครอบครองความเยาว์วัยและเป็นอมตะพวกเธอจึงถุกเรียกว่าปีศาจ แล้วหนึ่งในนั้นก็ได้ตกหลุมรักกับมนุษย์ที่ถูกช่วยเหลือก่อนที่เขาจะรู้ความจริงว่ากลุ่มสาวงามแท้จริงพวกเธอได้เก็บซ่อนความลับที่น่าสยดสยองอะไรเอาไว้

ครึ่งแรกทั้งหลอนทั้งขนลุกไม่คิดว่าบรรยากาศจะเหมาะเจาะเข้ากับฉากหลังเป็นพื้นป่าในยุคสมัยสงครามเวียดนามได้ขนาดนี้ ต้องยอมรับว่าน่าสะพรึงไม่น้อยกับสิ่งที่ผสมผสานระหว่างจิตวิทยากับเรื่องผีให้เป็นเนื้อเรื่องเดียวกัน แต่ความหลอนน่ากลัวนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในหนังเท่านั้น เนื่องจากเคยเกิดขึ้นจริงกับเหล่าทหารเกาหลีใต้ที่ได้รับสัญญาณวิทยุขอความช่วยเหลือจากหน่วย Donkey 3 ซึ่งสัญญาณก็ขาดๆหายๆ จับใจความได้ไม่ชัดเจน มีคลื่นแทรกตลอดเวลา ทว่าสิ่งที่พอฟังรู้เรื่องคือประโยคที่บอกว่าตัวเองกำลังทรมานเหมือนอยู่ในนรกอยากให้ไปช่วยเหลือเร็วๆ แต่นั้นยังไม่หลอนเท่าเมื่อรู้ว่าหน่วยนี้ได้หายสาบสูญไปในพื้นที่ R-Point เป็นเวลา 6 เดือนกว่าแล้ว แน่นอนว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่หายไปนานขนาดนั้นแล้วยังติดต่อกลับมาได้ทั้งที่สันนิษฐานไปแล้วว่าหน่วยนี้เสียชีวิตกันหมดทุกคน