The Woman King (2022) มหาศึกวีรสตรีเหล็ก

ภาพยนตร์สร้างจากเหตุการณ์จริง เรื่องราวของกองพันมาเลเซียที่ออกปฏิบัติภารกิจเพื่อช่วยกองกำลังสหรัฐฯ ซึ่งถูกต้อนเข้ามุมในสมรภูมิที่โมกาดิชู

เป็นเรื่องราวของ นักประมูลงานศิลปะมืออาชีพชื่อก้องในเรื่องงานศิลปะ ที่ใคร ๆ ก็ต้องการตัวให้ไปช่วยทำการประมูลให้ ผู้ซึ่งใช้ชีวิตอันหรูหราอย่างโดดเดี่ยว กับบรรดาภาพวาดศิลปะที่เขาว่าจ้างคนกลางให้มาแอบประมูลในงานไปได้ด้วยราคาถูกๆ เขาต้องมาพบลูกค้าสาวรายหนึ่งที่มีปัญหาทางบุคลิกภาพ ไม่กล้าออกจากห้องในบ้านของตัวเองเป็นเวลาถึง 12 ปี เมื่อเวลาผ่านไปเขาทั้งสองค่อย ๆ รู้สึกผูกพันและตกหลุมรักกัน เขาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาบุคลิกภาพของเธอให้กลับมาเป็นปรกติเรื่องราวของความรักอันหวานซึ้งต้องจบลงด้วยความซับซ้อนอย่างคาดไม่ถึง

หลังจากที่ร้านซักรีดของเธอต้องสูญเสียไปจากเหตุการณ์ไฟไหม้ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอย่างด็อกฮีได้รับโทรศัพท์จากธนาคารที่เสนอเงินกู้ก้อนโตล่วงหน้า เธอจึงรีบกู้เงินก้อนนั้นทันที แต่ไม่นานหลังจากนั้น เธอก็พบว่าตัวเองตกเป็นเหยื่อของแผนการฟิชชิ่งทางเสียง ด็อกฮีรู้สึกสิ้นหวัง จึงหันไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจ แต่กลับผิดหวังมากกว่าเพราะไม่มีความหวังที่จะได้เงินคืน ในช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวัง แจมิน ฟิชชิ่งที่หลอกเธอ โทรไปหาเธออีกครั้งเพื่อบอกด็อกฮีเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมที่ขังเขาไว้และบังคับให้เขาโทรฟิชชิ่งทางเสียงจากจีน ด้วยการโทรครั้งนั้น ด็อกฮีจึงตัดสินใจที่จะสืบสวนคดีนี้ด้วยตัวเองและขึ้นเครื่องบินไปจีนกับเพื่อนๆ ของเธอ

ระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่มิวนิกในปี 1972 วิกฤตการณ์ตัวประกันทำให้ผู้บริหารระดับสูงของทีวีระดับตำนานอย่าง Roone Arledge (Peter Sarsgaard) ต้องจ้างโปรดิวเซอร์รายการกีฬาที่ไม่เคยได้รับการทดสอบมาก่อนอย่าง Geoff Mason (John Magaro) ให้มาปรากฏตัวในข่าวที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก ท่ามกลางชีวิตที่แขวนอยู่บนเส้นด้ายและผู้คนทั่วโลกที่เฝ้าจับตามอง เหตุการณ์สำคัญครั้งนี้ซึ่งสร้างจากเรื่องจริง ได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการสื่อสารมวลชนไปตลอดกาล