Ticket to Paradise ตั๋วรักสู่พาราไดซ์

ในปี ค.ศ. 75 การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป มีการเคลื่อนไหวเพื่อเอกราช และการรุกรานจากบลูคอสมอส... เพื่อบรรเทาสถานการณ์ จึงมีการจัดตั้งองค์กรติดตามสันติภาพโลกชื่อ COMPASS โดยมีลาคุสเป็นประธานคนแรก ในฐานะสมาชิกของ COMPASS คิระและเพื่อนร่วมรบของเขาเข้าแทรกแซงในการสู้รบตามภูมิภาคต่างๆ จากนั้นประเทศที่เพิ่งก่อตั้งใหม่ชื่อฟาวน์เดชั่นได้เสนอการปฏิบัติการร่วมกันต่อต้านฐานที่มั่นของบลูคอสมอส

เทียน เด็กหนุ่มที่หวังเติบใหญ่เป็นนักรบผู้แกร่งกล้าเฉกเช่นบิดา ออกญาสีหเดโช นายทหารผู้ซื่อสัตย์ซึ่งจงรักภักดีต่อเหนือหัวผู้ซึ่งยอมได้ แม้กระทั่งสละชีวิตตนเอง เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินจากเหล่าผู้ฉ้อฉล และคนทรยศแต่จากคำทำนายที่ว่าเมื่อใดที่เทียนซึ่งถือกำเนิดในฤกษ์พระกาฬเติบใหญ่ภายใต้วังวนแห่งคมดาบ และกลิ่นคาวเลือด เมื่อนั้นผู้คนจำนวนมากจักต้องล้มตายกันอย่างพร้อมเพรียง ทำให้ออกญาสีหเดโชตัดสินใจส่งเทียนไปให้ ครูบัว เพื่อนสนิทซึ่งต่างเป็นลูกศิษย์ของพระครูปั้นมาด้วยกันช่วยบ่มเพาะสมาธิ เรียนรู้การฝึกจิตให้นิ่ง และศึกษาในด้านวิชาโขนนาฏศิลป์ เพื่อหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยจรรโลงจิตใจให้เกิดแต่สิ่งที่ดีงามขึ้น โดยมี พิม เด็กสาวที่ครูบัวเก็บมาเลี้ยงคอยให้ความช่วยเหลือ และมี ไอ้เหม็น ชายบ้าเสียสติ แต่หลงใหลในนาฏศิลป์ เป็นเพื่อนเล่น

กลุ่มเพื่อนที่ชื่นชอบเรื่องราวสยองขวัญแปดคนต้องต่อสู้กับฆาตกรตัวตลก ที่ล่วงรู้ความลับอันมืดดำของทั้งแปดคน และเริ่มกำจัดหนุ่มสาวทีละคน

มิเกลจะแต่งงานกับจูเลีย เจ้าของร้านจิวเวลรี่รายใหญ่ที่สืบทอดมาจากพ่อแม่ของเขา ระหว่างงานเลี้ยงฉลองประกาศหมั้นหมาย มิเกลได้พบกับอาริ หนึ่งในพนักงานเสิร์ฟอาหาร ความดึงดูดที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาทำให้มิเกลสนใจในโลกของอาริ: การแข่งรถผิดกฎหมาย จากนั้นตัวเอกของเรื่องนี้จึงตัดสินใจทิ้งจูเลียไว้โดยไม่รู้เจตนาที่แท้จริงของคนที่ล่อลวงเธอ อาริและนาบาส แฟนหนุ่มของเธอได้วางแผนที่จะหลีกเลี่ยงเครื่องประดับของมิเกลที่ทำร่วมกับอดีตแฟนสาวของเขา